OS Tips & Tricks - กดเบอร์โทรภายในโดยไม่ต้อง รอเสียงตอบรับจากระบบ!

เมื่อได้เบอร์โทรศัพท์ภายใน(เบอร์ต่อที่โต๊ะ) จากผู้ร่วมงานที่อยู่ต่างบริษัทบางครั้งก็เกิดความลำบากในการเมมเบอร์โทร แฟนเพจบางท่านอาจจะมีการบันทึกแยกต่างหากในช่อง note หรือพิมพ์แยก ซึ่งใน iPhone นั้นได้ซ่อนวิธีกดเบอร์ต่อท้าย ทำให้เวลาโทรไปยังเบอร์ที่ต้องการนั้นระบบ iOS จะกดเลขต่อภายในให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องรอเสียงตอบรับค่ะ 

ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังนี้ค่ะ ในขั้นตอนกดเบอร์โทรออก หรือ ขั้นตอนการเพิ่มรายชื่อ เมื่อกดตัวเลขที่ต้องการเสร็จ ให้กดปุ่ม * (ดอกจัน) ค้างเอาไว้จนกว่า เครื่องหมายดอกจัน จะเปลี่ยนเป็น เครื่องหมาย , (ลูกน้ำ)ค่ะ

หลังจากนั้นให้ให้กดเบอร์ต่อท้ายตามได้ทันทีค่ะ ตัวอย่าง เช่น 027415777,0007 หลังจากนั้นให้กดโทรออก หรือ บันทึกค่ะ

เพียงเท่านี้เราก็สามารถโทรออกจากเบอร์ที่เมมเอาไว้ในเครื่องโดยไม่ต้องกดเบอร์ต่อแยกต่างหากได้แล้วค่ะ : ) เทคนิคนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับการโทรไปยัง Call Center ที่เราใช้ประจำๆได้อีกด้วยค่ะ

เทคนิคดีๆ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ Office กันนะค่ะ

*เบอร์โทรในภาพ เป็นเบอร์สมมุตินะค่ะ

How to: วิธีสร้างกรุ๊ปใน Contacts

วิธีสร้างกรุ๊ปใน Contacts

Contact นั้นเป็นโปรแกรมที่จัดเก็บรายชื่อ ครอบครัว เพื่อนๆ และผู้ร่วมงาน ข้อมูลที่บันทึกในโปรแกรมสามารถเรียกใช้ผ่านโปรแกรมต่างๆภายในเครื่อง เช่น Phone, Mails, Calendar,Messages, และ FaceTime เมื่อคุณตั้งค่าโปรแกรมด้วย iCloud รายชื่อทั้งหมดจะ Sync ไปยังอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน สำหรับการตั้งค่า Group นั้นจะใช้ในกรณีที่มีรายชื่อจำนวนมาก การแบ่งรายชื่อเป็นชื่อกรุ๊ปจะช่วยให้การค้นหารายชื่อทำได้ง่ายขึ้น

1. 1. วิธีสร้างกรุ๊ป บนเว็ป iCloud
2. 2. วิธีสร้างกรุ๊ป บน OS X Mountain LioniCloud

iCloud

1. เข้าไปยังเว็ปไซด์ www.icloud.com แล้ว log-in ด้วย Apple ID แล้วเลือก Contacts

2. ที่หน้าจอ All Contacts ให้เลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปทั้งหมด ด้วยการกดปุ่ม“Command” (สำหรับเครื่อง Mac) ปุ่ม “Control” (สำหรับ PC) เพื่อเลือกรายชื่อหลายๆ รายชื่อเมื่อเลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปเสร็จแล้วให้ กดที่ “Create Group” (มุมขวาล่างของหน้าจอ)

3. ให้ตั้งชื่อกรุ๊ปที่ต้องการ

4. เมื่อสร้างกรุ๊ปที่ต้องการเสร็จ iCloud จะ Sync กรุ๊ปที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปยัง อุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งiCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน

OS X Mountain Lion

1.เปิดโปรแกรม Contacts ให้ปรับหน้าจอโปรแกรมให้อยู่ในโหมด Group ด้วยการกด“Command” + “1” พร้อมกัน หรือ กดที่ปุ่มเปลี่ยนมุมมองด้านล่าง ข้างปุ่ม “+” (ตามภาพประกอบ)แล้วคลิ๊กที่ All Contacts

2. ให้เลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปทั้งหมด ด้วยการกดปุ่ม “Command” เพื่อเลือกรายชื่อหลายๆรายชื่อ เมื่อเลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปเสร็จแล้วให้ กดที่ File > New Group From Selection

3. ตั้งชื่อกรุ๊ปที่ต้องการ เมื่อสร้างกรุ๊ปที่ต้องการเสร็จ iCloud จะ Sync กรุ๊ปที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้ง iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน

How to: วิธีสร้างกรุ๊ปใน Contacts

วิธีสร้างกรุ๊ปใน Contacts

Contact นั้นเป็นโปรแกรมที่จัดเก็บรายชื่อ ครอบครัว เพื่อนๆ และผู้ร่วมงาน ข้อมูลที่บันทึกในโปรแกรมสามารถเรียกใช้ผ่านโปรแกรมต่างๆภายในเครื่อง เช่น Phone, Mails, Calendar,Messages, และ FaceTime เมื่อคุณตั้งค่าโปรแกรมด้วย iCloud รายชื่อทั้งหมดจะ Sync ไปยังอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน สำหรับการตั้งค่า Group นั้นจะใช้ในกรณีที่มีรายชื่อจำนวนมาก การแบ่งรายชื่อเป็นชื่อกรุ๊ปจะช่วยให้การค้นหารายชื่อทำได้ง่ายขึ้น

1. 1. วิธีสร้างกรุ๊ป บนเว็ป iCloud
2. 2. วิธีสร้างกรุ๊ป บน OS X Mountain LioniCloud

iCloud

1. เข้าไปยังเว็ปไซด์ www.icloud.com แล้ว log-in ด้วย Apple ID แล้วเลือก Contacts

2. ที่หน้าจอ All Contacts ให้เลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปทั้งหมด ด้วยการกดปุ่ม“Command” (สำหรับเครื่อง Mac) ปุ่ม “Control” (สำหรับ PC) เพื่อเลือกรายชื่อหลายๆ รายชื่อเมื่อเลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปเสร็จแล้วให้ กดที่ “Create Group” (มุมขวาล่างของหน้าจอ)

3. ให้ตั้งชื่อกรุ๊ปที่ต้องการ

4. เมื่อสร้างกรุ๊ปที่ต้องการเสร็จ iCloud จะ Sync กรุ๊ปที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปยัง อุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งiCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน

OS X Mountain Lion

1.เปิดโปรแกรม Contacts ให้ปรับหน้าจอโปรแกรมให้อยู่ในโหมด Group ด้วยการกด“Command” + “1” พร้อมกัน หรือ กดที่ปุ่มเปลี่ยนมุมมองด้านล่าง ข้างปุ่ม “+” (ตามภาพประกอบ)แล้วคลิ๊กที่ All Contacts

2. ให้เลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปทั้งหมด ด้วยการกดปุ่ม “Command” เพื่อเลือกรายชื่อหลายๆรายชื่อ เมื่อเลือกรายชื่อที่ต้องการสร้างกรุ๊ปเสร็จแล้วให้ กดที่ File > New Group From Selection

3. ตั้งชื่อกรุ๊ปที่ต้องการ เมื่อสร้างกรุ๊ปที่ต้องการเสร็จ iCloud จะ Sync กรุ๊ปที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้ง iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน

How to : ตั้งค่า Emoji บน iOS และ OS X

Emoji หรือ ตัวอักษรรูปภาพ เป็นคำที่แปลจากภาษาญี่ปุ่นระหว่างคำว่า moji (文字) หมายถึง“ตัวอักษร” และ e (絵) หมายถึง “รูปภาพ” ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัว นั้นได้แสดงถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ภาพอาหาร ภาพนักธรุกิจ ภาพป้ายสัญลักษณ์ต่างๆซึ่งทาง Apple นั้นได้สนับสนุนการใช้งาน Emoji มาตั้งแต่ iOS 5 และล่าสุดบน iOS 6 ได้อัพเดทจำนวน Emoji เพิ่มเติม สำหรับการตั้งค่านั้นให้เข้าไปที่

Settings > General > Keyboard > International Keyboards > Add New Keyboardเลือก Emoji

ตั้งแต่ OS X Lion 10.7 เป็นต้น Apple ก็ได้สนับสนุนการพิมพ์และการแสดงผลอีโมจิ โดยสามารถเรียกใช้ผ่านโปรแกรมที่มีเมนู Edit

Edit > Special Characters.. > Emoji

ข้อจำกัดในการใช้อีโมจิ

การส่ง Emoji ไปยั้งอุปกรณ์อื่นๆ เช่นมือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ไม่สนับสนุนการแสดงผล Emojiจะทำให้ Emoji แสดงผลได้ไม่ถูกต้อง อาทิเช่น

• - Emoji แสดงผลเป็นตัวอักษรสี่เหลี่ยม เครื่องหมายคำพูด หรือ ไม่แสดงผล
• - การแสดงผล Emoji ไม่ถูกต้องตาม Emoji ที่เลือก
• - การตัดบรรทัดคำไม่ถูกต้อง เมื่อใช้ Emoji
• - ไม่สามารถส่งข้อความ หรือ อีเมล์ที่มี Emoji อยู่ในประโยค
• - เขื่อข่ายมือถือบางแห่ง ไม่ลองรับการส่ง Emoji ผ่านระบบ SMS หรือ EMS

หากเกิดอาการข้างต้น ให้ลบ Emoji ออก แล้วทดลองส่งข้อความใหม่อีกครั้ง

iOS Tips & Tricks - ซื้อแอพเป็นของขวัญให้เพื่อนด้วย App Store

iOS TIps - App Store (Gift)

ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ด้วยการส่งแอพลิเคชั่น

ใก้ลสิ้นปีเข้ามาทุกที ระหว่างนี้แฟนเพจหลายๆท่านก็เริ่มมองหาไอเดียของขวัญเก๋ๆ วันนี้เราจึงขอแนะนำการส่งแอพที่เราชอบไปให้คนที่เรารัก หรือเพื่อนๆ กันค่ะ โดยมีวิธีง่ายๆดังนี้ค่ะ

1. ล็อกอิน App Store ด้วย Apple ID ที่สามารถซื้อแอพได้
2. เลือกแอพที่ต้องการส่งให้เพื่อนๆ จาก App Store หลังจากนั้นให้แตะที่ ปุ่มแชร์ชีส (บนขวา ตามรูป)แล้วให้เลือก Gift จากเมนู
3. ในช่อง To: แนะนำให้ใส่ Apple ID ของผู้รับ หากต้องการส่งให้หลายๆคน ให้ใส่เครื่องหมาย ลูกน้ำคั่น เช่น maccomseven@comseven.com, comseven@comseven.comสำหรับช่อง Sender: ให้ใส่ชื่อผู้ส่ง
4. พื้นที่ด้านล่าง สามารถเขียนข้อความอวยพรที่ต้องการไปยังผู้รับ ในส่วน Send Gift: เราสามารถตั้งวัน และ เวลาในการส่งได้ ค่ามาตราฐานจะเป็นการตั้งให้ส่งทันที
   
   
   * แอพที่ซื้อใน App Store ประเทศไทย จะส่งให้ผู้รับที่ใช้ App Store ในประเทศเท่านั้น
   
5. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเลือกแบบการ์ดที่ต้องการ โดยมีแบบน่ารักๆ ให้เลือกหลายแบบค่ะ
6. ต่อไปเป็นการยืนยันการสั่งซื้อแอพเพื่อส่งให้เพื่อนๆ เมื่อตรวจสอบรายละเอียดถูกต้องเรียบร้อยให้ใหกด Buy Gift ค่ะ โดยระบบจะตัดเงินจากบัตรเครดิตทันที
7. สักครู่ ผู้รับแอพ จะได้อีเมล์จาก iTunes Store ให้เลื่อนอีเมล์ลงมาด้านล่างแล้วกด Redeem Nowโปรแกรมจะเปิด App Store หรือ iTunes ให้อัตโนมัติ หากผู้รับเปิดอ่านบน iOS หรือ คอมพิวเตอร์พร้อมหน้าจอให้กรอก Apple ID และพาสเวิรด์ เมื่อกรอกข้อมูลถูกต้องระบบจะเริ่มดาวน์โหลดแอพให้ทันที
   
   *ให้ตรวจสอบว่า อีเมล์ที่ส่งมาจาก iTunes Store และ ผู้รับไม่ต้องกรอกบัตรเครคิตเพิ่มเติม
   
   

Passbook

“บัตรที่ใช่ ในเวลาที่คุณต้องการ”

จะดีแค่ไหนถ้า ตัวเครื่องบิน, ตั๋วภาพยนต์, คูปองส่วนลด, บัตรสมาชิคจากร้านค้าที่คุณใช้ประจำ รวมอยู่บนแอพ แอพเดียวให้คุณเลือกใช้ง่ายๆ คุณสามารถยื่น iPhone หรือ iPod touch ของคุณให้เจ้าหน้าที่แสกนเพื่อเช็คอิน, รับตั๋วหนังที่ซื้อออนไลน์, แลกส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำ นอกจากนี้คุณยังสามารถเช็ควันหมดอายุบนคูปอง, ที่นั่งตั๋วบัตรคอนเสิร์ต, และยอดเงินคงเหลือบนบัตรใช้แทนเงินสด ทั้งหมดนี้คุณสามารถทำได้บน Passbook ไม่ต้องเสียเวลาค้นหา หรือลืมใช้บัตรคูปองที่มี

 Passbook จะแสดงข้อมูลบนหน้าจอ ให้สอดคล้องกับสถานที่ และ เวลา จากข้อมูลที่มีอยู่ เช่น เมื่อคุณเดินทางถึงสนามบิน หรือ ใก้ลถึงกำหนดเวลาฉายภาพยนต์ Passbook จะแสดงข้อมูลบนหน้าจอ Lock Screen ตามข้อมูลจากตั๋วหรือบัตรที่ถูกบันทึกไว้ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเช่น เครื่องบินเปลี่ยนเกต หลังจากคุณเช็คอินไปแล้ว Passbook จะอัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดบนหน้าจออีกครั้ง เพื่อให้คุณขึ้นเครื่องได้อย่างถูกต้อง 

 ด้านหน้าของบัตรจะแสดง ชื่อเจ้าของบัตร และรายละเอียด เช่น ตำแหน่งที่นั่ง วัน เวลา ถ้าเป็นบัตรใช้แทนเงินสด ด้านหน้าบัตรจะแสดงจำนวนเงินคงเหลือ ถ้าคุณมีตั๋วมากกว่า 2 ใบ Passbook จะรวมตั๋วเข้าด้วยกันคุณสามารถเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายมือเพื่อดูข้อมูล หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล อาทิ เช่น เครื่องบินเปลี่ยนเกต ระบบจะแจ้งผ่าน Notification และ ด้านหลังของบัตรจะแสดงการตั้งค่าต่างๆ เช่น Notification, การแสดงผลบน Lock Screen รวมถึงข้อกำหนด เงื่อนไขในการใช้บัตร

 Passbook จะดึงข้อมูลจากแอพที่คุณติดตั้งบนเครื่องมาแสดงผล คุณสามารถดาวน์โหลดแอพที่สนับสนุนการใช้งาน Passbook ได้ที่ App Store

วิธีอัพเดท iOS 6 จาก iOS 4 หรือเวอร์ชั่นที่ต่ำกว่า

Updating your device to iOS 6 from iOS 4 or Below

การอัพเดท iPhone, iPad, iPod touch จาก iOS 4 หรือ ต่ำกว่า ไปยัง iOS 6 คุณจะต้องลบข้อมูลภายในเครื่อง และ กู้ข้อมูลจากไฟล์ข้อมูลที่แบ็คอัพไว้ ก่อนการอัพเดทจะเสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนในการอัพเดทมีขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมสำรองข้อมูลที่สำคัญ บนอุปกรณ์ (คลิ๊กเพื่อดูขั้นตอนการแบ็คอัพด้วย iTunes)

2. อัพเดทอุปกรณ์ด้วย iOS เวอร์ชั่นใหม่

 a. นำอุปกรณ์ที่ต้องการอัพเดท เชื่อมต่อเข้ากับ iTunes

 b. คลิ๊กที่เมนู Device เลือกอุปกรณ์จากรายชื่อ คลิ๊ก “Check for Update”

หากคุณอัพเดทอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iOS ด้วยเครื่องคอมที่เคยเชื่อมต่อข้อมูลกับ iTunes เป็นประจำ คุณควรทราบว่า

“iTunes จะสำรองข้อมูลและ อัพเดทข้อมูลกับแบคอัพไฟล์ที่เก็บไว้ ข้อมูลที่อยู่บนตัวเครื่อง เช่น แอพที่ติดตั้ง,
เพลง, รายชื่อ, ปฎิทิน, โน๊ต, SMS, และ การตั้งค่า จะยังคงอยู่ครบหลังจากกู้ข้อมูลจากไฟล์แบคอัพ การอัพเดทจะให้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลภายในตัวเครื่อง ขณะทำการอัพเดทห้ามดึงตัวเครื่องออกจากสายเชื่อมต่อ”

หากคุณอัพเดทอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iOS ด้วยเครื่องคอมที่ไม่เคยเชื่อมต่อข้อมูลกับ iTunes มาก่อน คุณควรทราบว่า

“iTunes จะลบข้อมูลที่มีอยู่บนเครื่อง และจะกู้ข้อมูลจากแบคอัพไฟล์ ซึ่งข้อมูลบางอย่างจะหายไปiTunes จะเก็บเฉพาะข้อมูลสำคัญเช่น รายชื่อ, SMS, ปฏิทิน, และการตั้งค่าเครื่องอื่นๆ (คลิ๊ก เพื่อ ดูว่าiTunes สำรองข้อมูลอะไรไว้บ้าง?)

3. เมื่อคลิ๊ก Update ระบบจะดาวน์โหลดไฟล์ที่ใช้ในการอัพเดท ตัวเครื่องจะรีสตาร์ท และเริ่มอัพเดท

4. เมื่อระบบอัพเดท iOS เสร็จ ให้คุณเลือกการตั้งค่า Set Up iPhone “Restore from iTunesBackup”

5. ระบบจะทำการกู้ข้อมูลจากไฟล์ที่แบคอัพไว้ก่อนหน้า ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีในเครื่อง ระหว่างนี้ไม่ควรดึงสายเชื่อมต่อข้อมูลออกจนกว่าข้อมูลจะอัพเดต เสร็จสมบูรณ์